สองปีกว่าๆ แล้วที่พวกเราหลายสิบชีวิต ต้องถูกคุมขังอยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของพวกเรา คนไม่เคยติดคุกคงไม่รู้หรอกว่า วันเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน มันทุกข์ใจขนาดไหน ผมอยากให้เพื่อนๆ ข้างนอกแค่ลองคิดดูก็ได้ว่าถ้าสักวันหนึ่ง อาจต้องมาอยู่ในคุก เอาแค่วันเดียวก็พอ ที่ๆ เราไม่มีใครรู้จัก แวดล้อมด้วยนักโทษคดีต่างๆ อยู่ในพื้นที่ที่ล้อมด้วยกำแพงสูง มีลวดหนามแน่นหนา อาหารการกินก็เทียบกันไม่ได้กับข้างนอก ต้องอาบน้ำ และนอนรวมกันกับผู้ต้องขังหลายสิบชีวิต และเปิดไฟตลอดทั้งคืน ไม่ได้กอดคนรัก ไม่ได้พูดคุยกับพี่น้องญาติมิตร และอะไรต่างๆ อีกมากมาย เพื่อนๆ จะอยู่กันได้ไหม?
แต่พวกเราอยู่กันได้ อยู่โดยไม่ได้อยากจะอยู่ แต่มันประกันไม่ได้ เขาไม่ให้ บ้างก็ตัดสินมาแล้ว รอความช่วยเหลืออยู่ และรอมานานแล้ว ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางเลย คนอย่างพวกเราจะทำอะไรได้จริงมั้ย? ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยมีความภาคภูมิใจในการออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย โดยใช้สิทธิของประชาชน พลเมืองตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ความเป็นคนเสื้อแดงในวันนั้น มันช่างยิ่งใหญ่เสียจริงๆ เสียงปลุกเร้า กระตุ้นจิตใจให้ฮึกเหิม เสียงโห่ร้องของมวลชน ทำให้เรามีกำลังใจ และมีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พวกเราคงจะนึกภาพออก
พวกเราที่ถูกขังอยู่ในวันนี้คือพวกที่พลาดในวันนั้น หรือจะเรียกว่า ซวย ก็ได้ ซวยที่ถูกจับในฐานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสื้อแดง ที่ซวยที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่เราซวยที่ถูกจับ แล้วยังต้องอยู่แบบตัวใคร ตัวมัน ไร้การเหลียวแล ช่วยเหลือจาก..ใครดีล่ะ เพื่อนๆ คิดว่าควรจะเป็นใครดี บอกตามตรงเลยว่าค่อนข้างผิดหวังมากๆ ไม่เชื่อถามพวกที่เพิ่งประกันตัวออกไปได้ล่าสุดดูสิ มุกดาหาร มหาสารคาม ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร?
แต่พวกเราก็โชคดีที่ยังมีมวลชนกลุ่มเล็กๆ เพียงไม่กี่คนที่เห็นว่าพวกเราก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน เป็นแดงที่ไม่ใช่แดงคอนเสิร์ต แต่เป็นแดงที่มีจิตใจงดงาม แวะเวียนมาให้กำลังใจคนตัวเล็กๆ กลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้แม้วันที่ไม่มีคนระดับแกนนำอยู่ในนี้แล้ว พวกเขาก็ยังมา (ขออนุญาตสดุดีความดีของพวกเขาในอนาคตแบบรวบยอดอีกที ผมไม่ลืมแน่นอน) มาอย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบันนี้
อยากจะบอกว่า พวกเราได้กำลังใจจากคนกลุ่มนี้ทั้งๆ ที่เราคาดหวังที่จะได้กำลังใจจากคนอีกกลุ่มหนึ่งมากกว่า เพราะเหมือนนำเรามา กำลังใจน้อยนิดนี้สามารถเติมเต็มให้เรามีความหวัง และรู้สึกมีค่าขึ้น และไม่รู้สึกเสียดายที่เราต้องมาเผชิญชะตากรรมในคุก เรามีความหวัง และรู้สึกมีค่าขึ้น ไม่รู้สึกเสียดายที่เราต้องมาเผชิญชะตากรรมในคุก
นอกจากกำลังใจที่ได้จากมวลชนกลุ่มเล็กๆ นี้แล้ว อีกทางหนึ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจได้เหมือนกันก็คือ จดหมาย หรือไปรษณียบัตร เขียนข้อความสั้นให้กำลังใจพวกเรา ที่เห็นมีทำอยู่ช่วงหนึ่งในช่วงที่แกนนำยังอยู่ แต่หลังจากนั้นก็หายไป
เช่นกัน เราได้รับจดหมายจากบุคคลภายนอกน้อยมาก แทบไม่มี แม้แต่คนระดับหัวขบวนอย่างคุณสมยศ คุณสุรชัย ที่มีชื่อเสียงมากกว่าพวกเรา ก็ยังแทบไม่มีเลย แต่จดหมายน้อยๆ เหล่านี้อีกนั่นแหละที่เปรียบเสมือนสิ่งที่มีค่าที่สุดของพวกเรา ที่เราจะทนุถนอมเก็บเอาไว้อย่างดี เมื่อวันที่ท้อแท้ หมดกำลังใจ จดหมายพวกนี้แหละ จะช่วยเพิ่มกำลังใจให้เรามีรอยยิ้มได้ (อากงผู้ล่วงลับ เวลาดูจดหมายของหลานๆ ของป้าอุ๊ อากงยังร้องไห้ทุกครั้งเลย) สร้างน้ำตาด้วยก็ได้ ผมเองก็มักจะหยิบจดหมายเก่าๆ ที่เก็บเอาไว้มาอ่านเสมอ บ่อยที่สุดก็ของลูก ของป๊า ส่วนของเพื่อนๆ แทบไม่มีใครส่งมา ดูแล้วไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ?
จุดนี้เอง จึงเป็นที่มาของโครงการที่ผมอยากชักชวนเพื่อนๆ ชาวไซเบอร์ ส่งอีเมลมาให้กำลังใจพวกเราหน่อย ก็ขอกันตรงๆ แบบนี้ ในฐานะที่ก็เป็นคนไซเบอร์เหมือนกัน เพราะผมรู้ว่ากำลังใจ จากคนข้างนอก มันสุดแสนจะมีค่าเพียงใดกับคนข้างใน แค่อีเมลครับ ไม่ต้องหยุดงานมาเยี่ยม ไม่เสียเงินด้วย อยากฝากกำลังใจให้ใครแบบเดี่ยวๆ หรือแบบกลุ่มก็ตามสะดวกครับ ส่วนรายละเอียด วิธีการส่ง รายชื่อผูต้องขังในแต่ละเรือนจำมีอย่างไร ขอแยกไว้อีกส่วนละกันนะครับ
สุดท้าย นี้ ผมหวังว่าคงจะไม่เป็นการขอมากเกินไป ผมเชื่อว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จ พวกเราในนี้ก็คงจะมีกำลังใจมากขึ้นอีกเยอะเลย จริงๆ ครับ *0*
เชื่อมั่น และศรัทธา
หนุ่มแดงนนท์ (6 สิงหาคม 2555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น